
ผบ.ทสส. ลงใต้ติดตามการปฏิบัติงาน ค่ายสิรินธร ชื่นชม กอ.รมน.ภาค 4 สกัดกั้นผู้กระทำผิด พร้อมย้ำทหาร เป็นพี่เลี้ยงมอบความรู้แก่กองกำลังประจำถิ่นให้สามารถดูแลพื้นที่ได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ เน้นทุกภาคบูรณาการนำสันติสุขสู่พื้นที่ จชต. ด้าน มทภ.4 เผยกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง พยายามที่จะก่อเหตุในรูปแบบต่าง
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.68 พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนงานและนโยบายสำคัญของรัฐบาลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี โดยมี พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้การต้อนรับ และผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ, ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการพิเศษ, เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.), ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้าร่วมประชุมฯ พร้อมรายงานผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา
โดย พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยถึงสถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมา ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงมีความพยายามที่จะก่อเหตุในรูปแบบต่าง ๆ ต่อเนื่อง และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ภายใต้การบูรณาการของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงปฏิบัติงานร่วมกันตามแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำปี 2568 ได้อย่างประสานสอดคล้องและมีเอกภาพ น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาตามภูมิสังคมเป็นยุทธศาสตร์หลักในการแก้ไขปัญหา พร้อมขับเคลื่อนงานตามนโยบายสำคัญ 5 ด้าน และการเสริมสร้างประสิทธิภาพสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ควบคู่การขับเคลื่อนฮูกุมปากัตธรรมนูญหมู่บ้าน 9 ดี เพื่อแก้ปัญหาของหมู่บ้านสร้างความเข้มแข็ง ซึ่งเกิดจากกฎกติกาความร่วมมือของชุมชน และหมู่บ้านนั้น ๆ ตลอดจนสร้างความเข้าใจกับทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน ร่วมมือ ร่วมใจในการแก้ไขปัญหา
อีกทั้งขับเคลื่อนการปฏิบัติตามแผนสกัดกั้นชายแดน การใช้กองหนุนให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ และติดตามผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย โดยบูรณาการระบบกล้อง CCTV ร่วมกับการใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษอย่างมีระบบ เน้นย้ำการปฏิบัติตามแผนพิทักษ์กำลังพล ป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐถูกกระทำจากผู้ก่อเหตุรุนแรงสำหรับสถานการณ์อุทกภัยห้วงที่ผ่านมาได้ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า บูรณาการกับทุกภาคส่วน, ศูนย์อำนวยการจิตอาสาภัยพิบัติในพื้นที่ และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ของสำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา นำยุทโธปกรณ์เข้าช่วยเหลือประชาชน จัดตั้งรถครัวสนามและติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่นทดแทนถนน และสะพานที่ถูกกระแสน้ำตัดขาด เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้สัญจรได้ชั่วคราว และร่วมกับทุกภาคส่วนดำเนินการฟื้นฟู ปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวชื่นชมการทำงานของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ย้ำนำยุทโธปกรณ์ที่มีติดตาม ควบคุม ปราบปรามสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด ควบคู่กับการสกัดกั้นผู้กระทำผิดกฎหมายหลบหนีตามช่องทางธรรมชาติ กำชับกองกำลังทหารหลักจะต้องสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาศักยภาพให้กับกำลังท้องถิ่นให้มีขีดความสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ พร้อมทั้งกล่าวอำนวยพรปีใหม่แก่กำลังพลที่ปฎิบัติหน้าที่ราชการสนามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้ทุกนายยึดมั่นในหน้าที่และปฏิบัติภารกิจด้วยหัวใจ เพื่อผืนแผ่นดินไทย เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างสุดกำลังความสามารถ เชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 จะนำพาให้พื้นที่สงบสุขในเร็ววัน ย้ำให้นำบทเรียนและประสบการณ์ที่ผ่านมาตลอด 21 ปีกับเหตุการณ์ในพื้นที่ จชต. เพื่อนำพาสันติสุขกลับคืนพี่น้องอย่างยั่งยืน ยืนยันหากมีสิ่งไหนให้กองทัพไทยสนับสนุนพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มขีดความสามารถ
จากนั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ ได้มอบของขวัญปีใหม่ 2568 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่กำลังพล พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม บำรุงขวัญหน่วยปฏิบัติงาน เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2568 แก่กำลังพลหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 42 เพื่อติดตามรับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของหน่วย และให้โอวาทมอบของขวัญปีใหม่ พร้อมพบปะกำลังพล ณ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 42 สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ตำบลบาโร๊ะ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา โดยมี พล.ต.ชาคริต อุจะรัตน รองผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า, พ.อ.ปองภพ จงภักดี ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 42, และกำลังพลร่วมให้การต้อนรับและร่วมประชุม
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด /กล่าวให้โอวาทและพบปะกำลังพลว่า วันนี้ได้ลงมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งภารกิจของ นพค.42 คือ มีภารกิจในด้านการพัฒนา และช่วยเหลือประชาชน โดยเน้นการก่อสร้างเส้นทางถนน และระบบน้ำในการส่งเสริมเกษตรกรรมในภาคใต้ ทั้งนี้ขอเน้นย้ำความปลอดภัยของกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ประมาทและมีสติ เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนจะมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่กำลังพล