
“นายกฯอิ๊งค์” จ่อลุยสระแก้ว ติดตามการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 28 ก.พ.นี้ ลั่น “เรื่องนี้ไม่จบ ไม่เลิก” สั่งรื้อเสาสัญญาณ ตัดซิมบ็อกซ์ใกล้ชายแดน ต้องเอาจริงในเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 25 ก.พ.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า ที่ประชุมครม.ได้สรุปการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เป็นปัญหากระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้ได้ซีลพื้นที่ชายแดนทั้ง 14 จังหวัด และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากจีนและเมียนมา มีผู้ถูกจับกุมจำนวนมาก คนที่ถูกจับกุมกระทรวงกลาโหม ได้ประสานกับประเทศปลายทางมารับตัวกลับไปเป็นรอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
นายกฯ กล่าวว่า ไทย จีน เมียนมา ได้ตั้งคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นมาพูดคุยแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยสั่งการคุ้มเข้มเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตให้ดำเนินการตามกฏหมาย และในส่วนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รายงานว่าทำงานร่วมกันกับกสทช.ตำรวจสอบสวนกลาง และบริษัทโทรคมนาคม เพื่อทำการรื้อถอนเสาสัญญาณที่ใกล้ชายแดนให้ปรับลดความสูง และความแรงของสัญญาณ และหันหน้าสัญญาณเข้าสู่ชายแดนไทยพร้อมตัดสัญญาณซิมบ็อกได้รับที่ได้รับอนุญาตคลีนซิ่งตัดเบอร์เครือข่าย สัญญาณที่ใช้บริการสูงเกินกว่าความจำเป็น จนเป็นที่น่าสงสัย ก็จะเข้าไปตรวจสอบและดูว่าน่าจะเข้าข่ายขายสัญญาณ
“เรื่องนี้รัฐบาลจัดการอย่างจริงจังทั้งประเทศไทย จีน เมียนมา กัมพูชา และในวันที่ 28 ก.พ.นี้ จะเดินทางลงพื้นที่จ.สระแก้ว เพื่อดูปัญหานี้ด้วยตัวเอง เร่งแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไปจากประเทศไทยโดยเร็ว เรื่องนี้ไม่จบ ไม่เลิก ต้องทำอย่างจริงจัง ตอนนี้ได้รับผลตอบรับที่ดีจากหลายประเทศ ในเรื่องความร่วมมือและเป็นตัวอย่างการจัดการปัญหา เราสามารถ ไปพูดเรื่องนี้ได้อย่างเต็มปากว่าประเทศไทยจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเป็นประโยชน์ต่อประเทศเพื่อนบ้าน”นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่าการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ไม่จบ ไม่เลิก แต่ดูเหมือนว่าขณะนี้จะมีเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์จำนวนมาก นายกฯ กล่าวยอมรับว่า ใช่ เครือข่ายเยอะมาก ไปทุกประเทศแล้ว และโดนคอลเซ็นเตอร์กันทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีหลอกลวงทางออนไลน์เยอะ เราต้องโฟกัสพื้นที่ของเราก่อน รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เช่นนั้นจะไม่ทราบว่า เริ่มจากตรงไหนได้บ้าง เอาประเทศเรากับประเทศเพื่อนบ้านรอบๆให้จบก่อน และย้ำว่าได้รับความร่วมมือที่ดีมากจากประเทศเพื่อนบ้าน