ผบ.ทบ. ลงพื้นที่อาคาร สตง. ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ติดตามภารกิจกู้ภัยอย่างใกล้ชิด ให้กำลังใจกำลังพล-เจ้าหน้าที่ พร้อมเน้นย้ำความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
เมื่อวันที่ 11 เม.ย.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ./ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจกำลังพลและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ซากอาคาร สตง. ที่ถล่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 28 มี.ค.68 ที่ผ่านมา
โดยกองทัพบกได้ส่งกำลังพล เครื่องมือ และยุทโธปกรณ์อย่างเต็มศักยภาพเข้าสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันเกิดเหตุมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันจัดกำลังพล รวม 185 นาย จากกองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์, กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์, มณฑลทหารบกที่ 11, กองพันทหารสารวัตรที่ 11, กองพันทหารสื่อสารที่ 21 กองทัพภาคที่ 1, กรมการสัตว์ทหารบก, กรมการทหารช่าง และกองร้อยปฏิบัติการจิตวิทยาที่ 1 พร้อมทั้งนำยานพาหนะและยุทโธปกรณ์ จำนวน 31 คัน เข้าสนับสนุนภารกิจกู้ภัย รื้อถอนซากอาคาร และค้นหาผู้รอดชีวิต ร่วมกับสำนักงานเขตจตุจักร, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, อาสากู้ภัย, จิตอาสา และส่วนราชการอื่น ๆ
ปัจจุบันในพื้นที่เก็บกู้มีการดำเนินการต่าง ๆ อาทิ การกำจัดซากคอนกรีตอัดแรง ด้วยรถบดหินตัดเหล็กและรถโกยตักทหาร, การลดปริมาณฝุ่นจากการรื้อถอนด้วยการพ่นละอองน้ำ โดยรถดับเพลิงในอาคารด้วยระบบควบคุมระยะไกล (LUF 60) และรถดับเพลิงของกองทัพบก, การขนย้ายเศษซากคอนกรีตและเศษเหล็กไปทิ้งเพื่อเปิดพื้นที่ปฏิบัติงาน โดยใช้รถยนต์บรรทุกสิบตัน, การสนับสนุนชุดช่างซ่อมบำรุงเคลื่อนที่ให้เครื่องมือช่างและเครื่องจักรสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งส่องสว่างพื้นที่ปฏิบัติงานด้วยรถส่องสว่าง, การวางกำลังปิดกั้นพื้นที่โซนสีต่าง ๆ, การจัดชุดเฝ้าระวังการเคลื่อนตัวของซากอาคารที่อาจก่อให้เกิดอันตรายระหว่างการปฏิบัติงานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน, การบริหารจัดการพื้นที่ โดยการจัดเตรียมที่พัก พื้นที่จ่ายอาหารและน้ำดื่ม พื้นที่รักษาพยาบาล และพื้นที่ปฏิบัติการสำหรับหน่วยงานต่าง ๆ, การจัดตั้งโรงครัวพระราชทานแจกจ่ายอาหารแก่ผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่, การจัดเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารอำนวยความสะดวกด้านการจราจรร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการสนับสนุนโดรน และกล้องจับความเคลื่อนไหวค้นหาผู้ประสบภัยและร่างผู้เสียชีวิต
โอกาสนี้ ผบ.ทบ. ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลกองทัพบกที่ช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ภัยพิบัติอย่างเต็มกำลังความสามารถ และขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงานเป็นสำคัญ พร้อมทั้งได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเสียสละเพื่อเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในทุกโอกาส
