ผบ.ทบ. นำ 314 นายพลใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณสุดยิ่งใหญ่ ย้ำภารกิจปกป้องแผ่นดิน-จงรักภักดีจนกว่าชีวิตจะหาไม่ พร้อมผลักดันกองทัพทันสมัย มั่นคง และศรัทธาจากประชาชน
เมื่อวันที่ 1 ต.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.ท.หญิง ญดา โชติชูตระกูล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนายทหารชั้นนายพลสังกัดกองทัพบก ที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น

โดยมีนายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพลสังกัดกองทัพบกที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศทหารชั้นนายพล ให้แก่นายทหารสัญญาบัตร สังกัดกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 และพระราชทานยศทหารชั้นนายพลเป็นกรณีพิเศษให้แก่นายทหารสัญญาบัตรที่ลาออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหมซึ่งมีนายทหารสัญญาบัตรสังกัดกองทัพบกที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น รวม 314 นาย

โดยผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวแสดงความยินดีกับทุกท่าน ที่ได้รับความสำเร็จในชีวิตราชการอีกขั้นหนึ่ง ขอให้ทุกท่านได้ภาคภูมิใจและตระหนักในหน้าที่ความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งต้องใช้ขีดความสามารถทั้งปวงปฏิบัติหน้าที่สนองเบื้องพระยุคลบาทปกป้องประเทศ และดำเนินการตามนโยบายของกองทัพบก สร้างความร่วมแรงร่วมใจ มีความอุตสาหะ ซื่อสัตย์สุจริต ประพฤติตนให้สมเกียรติและศักดิ์ศรีของการเป็นทหาร เป็นผู้นำที่ดี มีคุณธรรม ดูแลเอาใจใส่ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา รวมทั้งการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องให้มีความพร้อมทุกด้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพบกในการรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่มีความเปลี่ยนแปลง สามารถพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และบรรลุตามวิสัยทัศน์ของกองทัพบกที่มุ่งไปสู่การเป็นกองทัพที่มีศักยภาพ ทันสมัย และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนต่อไป

จากนั้นผู้บัญชาการทหารบกได้นำคณะนายทหารชั้นนายพลที่ได้รับพระราชทานชั้นยศสูงขึ้นกระทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พร้อมทั้งกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณว่า “จักจงรักภักดี จักยอมอุทิศตน พร้อมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องและรักษาไว้ ซึ่งอธิปไตยของราชอาณาจักรแห่งนี้ และจักเทิดทูนและรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้า พระบรมราชจักรีวงศ์ จนกว่าชีวิตจะหาไม่”