นายกฯอิ๊งค์ มอบนโยบาย กอ.รมน.68 ย้ำต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน ปราบยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับมือภัยพิบัติ แก้หนี้นอกระบบ และแก้ปัญหา จชต. โดยโครงสร้าง กอ.รมน. ต้องกระทัดรัด คล่องตัว และมีเป้าหมายการทำงาน พร้อมเผยคุ้นกับทหารแล้ว
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. เป็นประธานในงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2567 และแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 ของ กอ.รมน. มี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. และพล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสธ.ทบ. ในฐานะ เลขาฯกอ.รมน.
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การแถลงผลงานประจำปีของ กอ.รมน.ปีนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้ได้พบกับทุกคน และทราบถึงผลงานที่ผ่านมาว่า กอ.รมน.มีส่วนช่วยและเป็นตัวหลักในเรื่องใดบ้าง เป็นการทำงานร่วมกับรัฐบาลที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต หลายนโยบายสำหรับรัฐบาลถือเป็นวาระแห่งชาติ เรื่องยาเสพติด ปัญหาไซเบอร์ต่างๆ ที่ตอนนี้มีผลกระทบต่อชีวิตที่น้องประชาชนอย่างมาก จึงต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย ในปีนี้จะเห็นชัดว่าเกิดปัญหาภัยพิบัติธรรมชาติอย่างมากมาย ทั้งปัญหาน้ำท่วม เห็นแล้วว่าต้องใช้ความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนจริงๆ และภาวะความเปลี่ยนแปลงน้ำท่วม ดินโคลนถล่มในหลายจังหวัด ซึ่งเราต้องขอความช่วยเหลือจากทุกฝ่ายจริงๆ ที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณ กอ.รมน.ที่สนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ทำให้ประชาชนมีผลกระทบน้อยลง ซึ่งจริงๆ แล้วจะเป็นเยอะมาก
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในฐานะ ผอ.รมน.ขอมอบภารกิจสำคัญเพิ่มเติม สำหรับปีงบประมาณ 2568 เรื่องแรกเป็นเรื่องความมั่นคงทางทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ซึ่งประชาชนประสบภัยพิบัติต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ 9 จังหวัด ภาคใต้ 6 จังหวัด ถือเป็นความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจอย่างมาก เราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และรับมือกับเรื่องของฝุ่น PM2.5 ที่มาแน่ๆ และเริ่มมีบ้างแล้ว เราก็ต้องขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย เป็นสิ่งสำคัญและต้องการความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย ดังนั้น ขอให้ กอ.รมน.ภาคและจังหวัดร่วมเป็นด่านหน้าในการช่วยเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติป้องกันเฝ้าระวังการลักลอบตัดไม้ การเผาป่าพื้นที่เกษตรและพื้นที่ที่จะก่อให้เกิดปัญหา PM2.5 รวมถึงเป็นหน่วยร่วมในการเฝ้าระวังลักลอบสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เรื่องนี้ขอให้ปฏิบัติอย่างเข้มข้น รัฐบาลได้คุยในเรื่องการเผาสินค้าเกษตรต่างๆ ที่จะทำให้เกิด PM2.5 ตรงนี้เรามีจัดการจากรัฐบาลอย่างเข้มข้นเช่นกัน
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2 ความมั่นคงทางด้านสังคม ถือเป็นความมั่นคงที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันประชาชน ขอมอบหมายให้ กอ.รมน.ให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องหลัก ดังนี้ เรื่องแรกเป็นวาระแห่งชาติคือ ปัญหายาเสพติด ขอให้ กอ.รมน.ร่วมมือกับตำรวจ ป.ป.ส. และฝ่ายปกครอง ในการดำเนินงานตั้งแต่การตัดต้นตอยาเสพติดสกัดกั้นเส้นทางการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศ ปราบปราม ยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด ค้นหาผู้เสพในชุมชน เพื่อเข้ากระบวนการบำบัดรักษา ซึ่งตนได้มีโอกาสลงพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.ร้อยเอ็ด มีทหารเข้าไปช่วยบำบัดยาเสพติด และได้เห็น จากหน้าตาประชาชนการที่เขาได้บำบัดเขามีความภูมิใจ เมื่อทหารเข้าไปช่วย โดยมีข้อปฏิบัติหนึ่ง สอง สาม ซ้ายหันขวาหัน เขาได้คาแร็กเตอร์ความมั่นคง ความมั่นใจที่ทหารไปฝึก เขารู้สึกว่ามันน่าภูมิใจ ออกมาแล้วดูเท่และมีบุคลิกที่ดีขึ้น
ส่วนตัววิเคราะห์ได้ว่าถ้าเราช่วยกันแบบนี้ สร้าง Energy ความมั่นใจให้ว่าหลังจากบำบัดออกมาสังคมยอมรับกับเข้าสังคมและยังสามารถมีอาชีพทำงานต่อได้ เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก จึงขอให้ กอ.รมน.ช่วยกันจัดการฝึกอบรมอาชีพให้กับผู้ที่บำบัดจากยาเสพติดออกมาแล้วไม่ใช่ออกเฉยๆ แล้วกลับไปเข้าวงจรอีก ขอให้เน้นย้ำช่วยกันหลังจากที่พ้นจากยาเสพติดแล้วมีแนวทางไปต่อ ขอให้เป็นสิ่งที่เน้นย้ำ เพื่อไม่ให้เขากลับเข้าสู่วงจรยาเสพติด ส่วนเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติรับมือกับแก๊งออนไลน์ต่างๆ ซึ่งมีเทคนิคที่จะหลอกประชาชนขอให้ กอ.รมน.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการเป็นหน่วยปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาด
น.ส.แพทองธาร กล่าอีกว่า เรื่องที่ 3 ซึ่งเป็นผลกระทบต่อประชาชนมากคือ หนี้นอกระบบ ขอให้ กอ.รมน.ร่วมมือกับฝ่ายปกครอง และร่วมลงพื้นที่ในการแก้ไขปัญหากับประชาชนที่ประสบปัญหานี้ ส่วนหนี้ในระบบรัฐบาลมีเรื่องนโยบายอยู่แล้วที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งเพิ่งประกาศนโยบายออกไป รวมถึงการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีบทบาทสำคัญมาตลอดโดยเฉพาะงานข่าวกรอง งานมวลชนที่เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ไปรณรงค์ปลูกฝังในชุมชน ขอให้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์สร้างเอกภาพในการทำงานกับหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งมีจำนวนมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิผลให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ทั้งนี้ ขอมอบให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกและรมว.กลาโหม ปฏิบัติภารกิจดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการพัฒนาประสิทธิภาพขององค์กร ปัญหาด้านความมั่นคงในปัจจุบันอย่างที่ทราบกัน มีความซับซ้อนมากกว่าเดิม ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นทางด้านเทคโนโลยี ขอให้ กอ.รมน.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กร โดยระบบการทำงานต้องทันสมัย ด้านเทคโนโลยีต้องเน้นย้ำให้ปรับตัวทันกับโลกและเปลี่ยนผ่านไปสู่ราชการที่ทันสมัย เป็นระบบดิจิทัลมากขึ้น ตรวจสอบได้ และโครงสร้างของ กอ.รมน. กำลังพลจะต้องกะทัดรัดคล่องตัว สามารถปรับตัวได้ง่าย สายการบังคับบัญชาต้องสั้นลง การทำงานต้องมีเป้าหมาย แล้วก็ต้องมีตัวชี้วัดผลที่ชัดเจนให้มากขึ้น บุคลากรที่มีความสามารถต้องได้รับความเจริญก้าวหน้า สนับสนุนต่อไปในอนาคต ทั้งหมดที่กล่าวมาขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ว่าฯที่ทำหน้าที่เป็นซีอีโอ ในบทบาทของ ผอ.รมน.จังหวัด โดยมี รอง ผอ.รมน.จังหวัด เป็นผู้ช่วย ขอให้ ผอ.รมน.จังหวัดบูรณาการกำลังเข้ากับส่วนงานหลักที่รับผิดชอบในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนงาน และการปฏิบัติของ กอ.รมน.จังหวัดที่มีผลงานให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
นายกฯ กล่าวอีกว่า โอกาสนี้ขออนุญาตอวยพรให้ปีใหม่นี้ เป็นอย่างที่รัฐบาลพูดไว้คือเป็นปีแห่งโอกาส ขอให้ทุกท่านในองค์กรให้โอกาสซึ่งกันและกัน พร้อมสนับสนุนซึ่งกันดูแล เพราะประเทศจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ต้องอาศัยความสามัคคีของทุกฝ่าย เพื่อที่จะให้ประชาชนมีความสุข ประเทศชาติมีความสุข เราก็จะทำหน้าที่ของแต่ละคนอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกท่านมีแรงกาย แรงใจ ช่วยกันดูแลปกป้องประเทศของเราและพี่น้องประชาชน สถาบันพระมหากษัตริย์ ช่วยกันอย่างเต็มที่ ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่สดใส ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง หวังว่าจะได้ร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนมากยิ่งขึ้น และทำงานแบบบูรณาการมากยิ่งขึ้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงผลงานประจำปีของ กอ.รมน.นายกฯได้เดินชมบูธกิจกรรมที่นำมาจัดแสดง ระหว่างที่เดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ผบ.ทบ.ได้เดินมาส่ง โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกฯว่า อยู่ท่ามกลางความมั่นคงอบอุ่นหรือไม่และคุ้นกับทหารหรือยัง นายกฯ ตอบว่า คุ้นแล้ว ตั้งแต่เรียนมินิ วปอ.คุ้นมานาน
