กองทัพภาคที่ 4 เปิดค่ายวชิราวุธ รับ “รมช.กห.” ลงใต้ตรวจเยี่ยมหน่วยงานความมั่นคง มอบนโยบายการปฏิบัติงาน ชื่นชมกำลังพลเสียสละ ทุ่มเท สกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาให้กลับสู่สังคม ก่อนย้ำร่วมมือตำรวจในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เมื่อวันที่ 17 ก.พ.68 พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รมช.กลาโหม พร้อมคณะลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อตรวจเยี่ยมหน่วยงานด้านความมั่นคง ติดตามสถานการณ์ และมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่กองทัพภาคที่ 4 ซึ่งนับเป็นการตรวจเยี่ยมอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยมี พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย ฝ่ายเสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 และผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
รมช.กลาโหม ได้เข้าร่วมประชุมรับฟังผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ ของกองทัพภาคที่ 4 อาทิ การป้องกันชายแดน การสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย รวมถึงการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาล (โครงการธวัชบุรีโมเดล) ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
พล.อ.ณัฐพล กล่าวชื่นชม การทำงานของกองทัพภาคที่ 4 ที่ได้เสียสละ ทุ่มเท ปฏิบัติภารกิจต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเน้นย้ำนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมุ่งเน้นทั้งการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน การปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดภายในพื้นที่ และการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งกำชับให้กองทัพภาคที่ 4 บูรณาการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ เน้นย้ำการแก้ไขปัญหามิจฉาชีพและกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Scammer) ที่ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชน ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามและป้องกันปัญหาดังกล่าวให้ได้ผลชัดเจน
ทั้งยังได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ให้ทุกส่วนร่วมกันเร่งระดมกำลังในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองและป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าซ้ำซ้อนในพื้นที่ภาคใต้ นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น อดทน และยึดหลักสิทธิมนุษยชนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐและประชาชนในการดูแลความมั่นคงของพื้นที่ชายแดนใต้ให้มีเสถียรภาพและยั่งยืนต่อไป
About the Author
