นายกฯ อิ๊งค์ แสดงความเสียใจครอบครัว 2 ตชด.เหยื่อระเบิดนราธิวาส ยันลงพื้นที่ 3 จชต.แน่ แจงรัฐบาลเร่งนำสันติสุขสู่ชายแดนใต้ พร้อมเร่งพัฒนาพื้นที่ทั้งการคมนาคม ขนส่ง คุณภาพชีวิต ความมั่นคง และเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 15 ม.ค.68 ที่เมืองทองธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุลอบวางระเบิด จ.นราธิวาส ส่งผลให้ พ่อ-ลูก ครู ตชด.เสียชีวิต ก่อนที่นายกฯ จะลงพื้นที่วันที่ 16 ม.ค.นี้ ว่า ให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ช่วยดูในเรื่องของเส้นทาง ซึ่งเดี๋ยวต้องคุยกันอีกทีว่าจะทำอย่างไร ส่วนการลงพื้นที่ครั้งนี้จะมีการหยิบยกประเด็นความไม่สงบมาคุยกับผู้นำชุมชน หรือผู้นำศาสนาในพื้นที่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราต้องคุยกันก่อน และต้องคุยนอกรอบกันด้วย อะไรที่เป็นการสนับสนุน เราก็พร้อมจะสนับสนุนให้ทุกจังหวัดมีความสงบสุข ถ้าอะไรคุยได้ก็ต้องคุย แน่นอนเราไปเพื่อไปแก้ปัญหาในจังหวัดนั้นๆ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจังหวัดไหนจะเจอปัญหาอะไร เราต้องคุยอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เหตุเกิดขึ้นก่อนที่นายกฯ จะลงพื้นที่อาจจะมีการมองว่าเป็นการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ เพื่อจะสื่อถึงรัฐบาล เราจะบูรณาการการทำงานอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่หรอก อย่าคิดอย่างนั้นเลย เราไปด้วยใจที่ต้องการแก้ปัญหาในหลายๆ ด้านไม่ใช่แค่เรื่องนั้นอย่างเดียว เราจะไปช่วยเพิ่มรายได้ต่างๆ ด้วย อะไรทำได้เราต้องทำ เราโตช้ากว่าประเทศอื่นไปเยอะ เพราะฉะนั้นอะไรทำได้ต้องทำ ซึ่งทราบอยู่แล้วว่าตนไม่สู้เรื่องความรุนแรง ไม่เน้นเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเรื่องอื่นอะไรที่สนับสนุนได้ก็พร้อมเต็มที่ แสดงความเสียใจครอบครัวผู้เสียชีวิต เหตุลอบคาร์บอมที่นราธิวาส
ต่อมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้โพสต์ข้อความว่า “เหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถยนต์ในพื้นที่ จ.นราธิวาส จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ดิฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว “ช่วยเทวฤทธิ์” ซึ่งทั้ง 2 ท่าน ได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ด้วยความเสียสละเพื่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่และเพื่อประเทศชาติอย่างดียิ่งตลอดมาค่ะ เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้รัฐบาลต้องเร่งให้ความสำคัญในการแก้ปัญหา นำความสงบสุขคืนให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยเร็วที่สุด ในวันพรุ่งนี้ ดิฉันจะเดินทางไปที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อปฏิบัติภารกิจตามกำหนดการเดิม เพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ค่ะ”
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี) ในวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคมนี้ โดยนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะนักศึกษาและผู้ปกครอง ที่เข้าร่วม “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความยุติธรรม” ณ ลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พร้อมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่ – สุไหงโก-ลก ที่ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อพบปะผู้นำศาสนาและนักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จากนั้น จะเดินทางต่อไปยังท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อพบปะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประมงจังหวัดปัตตานี พร้อมทั้งจะติดตามความคืบหน้างานโครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเลที่ร่องน้ำปัตตานี และจุดจอดพักเรือจังหวัดปัตตานี และโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการ (Soft Loan) ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งการคมนาคม ขนส่ง รวมถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อสร้างความมั่นคงและขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในพื้นที่
