
ผบ.ทร. ยัน ทัพเรือ ต้องการมี “เรือดำน้ำ” หลังถูกดึงเรื่อง โยน “ภูมิธรรม” ตัดสินใจ เพราะเมื่อล่าช้าจะกระทบแผนกำลังรบทางเรือ ส่วนการจัดซื้อเรือฟริเกต 2 ลำ กำลังตั้งในงบฯปี 2569
พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. กล่าวถึง ความคืบหน้าการจัดซื้อเรือฟริเกต จำนวน 2 ลำในปีงบประมาณ 2569 ว่า ขณะนี้อยู่ในห้วงของการตั้งของงบประมาณ ซึ่งเป็นงบที่สูงกว่า 1,000 ล้านบาท จึงต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขอให้รัฐบาลนั้นอนุมัติ ก่อนจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรื่องน่าจะอยู่ที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมว่าจะพิจารณาอย่างไร หากมีข้อสงสัยตนจะต้องเข้าไปชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งทาง รมว.กลาโหม บอกว่าหากทางเหล่าทัพมีเหตุผลที่ชัดเจนก็พร้อมที่จะสนับสนุน ซึ่งตนบอกว่าคงไม่เพียงแค่รัฐบาล ประชาชนก็คงเห็นด้วย เพื่อให้กองทัพเรือมีกำลังทางเรือ ดูแลอธิปไตยทางน้ำ ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันกำลังทางเรือถดถอยลงทุกปี หากไม่จัดหาเพิ่มเติม ก็จะไม่ได้รับความเกรงใจจากประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าจะผ่านในขั้นตอนต่างๆของทางรัฐสภาหรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละท่านจะเข้าใจบทบาท หน้าที่ของกองทัพเรือเพียงใด ในมุมมองของกองทัพเรือพยายามอธิบายให้ทุกท่านได้เข้าใจ และเชื่อมั่นว่าสุดท้ายแล้วก็น่าจะผ่าน
ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเรื่อง เรือดำน้ำขาดเครื่องยนต์ พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องต่างๆพ้นจากอำนาจของกองทัพเรือไปแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับรมว.กลาโหม หากยังสงสัยในประเด็นใดเราก็พร้อมจะสนับสนุนข้อมูลในทุกเรื่อง รวมถึงการสอบถามข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกด้าน ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับ รมว.กลาโหม ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ส่วนทางออกที่ดีที่สุด กองทัพเรือ ยังยืนยันความต้องการเดิม การมีเรือดำน้ำอยู่ในแผน แต่เมื่อแผนการจัดหาล่าช้าออกไป ก็ไปกระทบกับแผนจัดหา เรืออื่นๆ ซึ่งปัจจุบันความต้องการของเรารวนอยู่ ก็ต้องมาดูว่าจะสามารถจัดระบบอย่างไรให้ลงตัว ซึ่งตนตัดสินใจแทน รมว.กลาโหม ไม่ได้