ผบ.ทบ. สั่งเข้ม ผบ.หน่วย ทุกการฝึกต้องได้มาตรฐาน เพื่อนำไปสู่การเตรียมกำลังให้พร้อมรับมือกับทุกภารกิจ พร้อมเพิ่มกำลังป้องกันชายแดน 6 หมวด สกัดสิ่งผิดกฎหมาย ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล
เมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 ที่กองทัพบก พ.อ.ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ รองเลขานุการกองทัพบก เเละโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 4/2568 โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุม เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติงานและสั่งการต่อผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก โดยมีประเด็นที่สำคัญดังนี้
ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบประกาศชมเชยให้กำลังพลที่ช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ต่างๆ และมอบรางวัลการประกวดภาพถ่าย “Unseen Moments หลากแง่มุมชีวิตทหารผ่านเลนส์” ซึ่งเป็นโครงการที่กองทัพบก ร่วมกับ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ คัดเลือกและจัดแสดงภาพถ่ายโดยฝีมือกำลังพลกองทัพบกที่สะท้อนวิถีชีวิตของอาชีพทหาร ในหลายเรื่องราว และการมอบกายอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือกำลังพลและครอบครัวที่พิการทุพพลภาพ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการดูแลสวัสดิการกำลังพลของกองทัพบก
จากนั้นกรมฝ่ายเสนาธิการได้รายงานผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ โดยกรมกำลังพลทหารบกได้รายงานข้อมูลการเปิดรับสมัครทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ โดยวิธีร้องขอ กรณีพิเศษผ่านระบบออนไลน์ ประจำปี 2568 ที่ ล่าสุดมียอดผู้สมัครสะสม (ที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือก) ตั้งแต่ ก.ย.67 – ปัจจุบัน (21 ม.ค.68) รวม 22,361 คน ซึ่งมากกว่าปี 2567 กว่า 8,000 คน (ข้อมูลสมัครพลทหารออนไลน์ ปี 2567 : 14,135 คน)
นอกจากนี้ในส่วนของทหารกองประจำการที่จะครบกำหนดปลดประจำการ และประสงค์จะรับราชการต่อ หรือขอเลื่อนปลด กองทัพบกได้เปิดโอกาสให้สามารถแจ้งความประสงค์ผ่านหน่วยต้นสังกัด ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ม.ค.68 โดยสามารถเลื่อนปลดประจำการได้คราวละ 1 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนถึงอายุ 30 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ ผู้สมัครใจเลื่อนปลดประจำการจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมต่างๆ อาทิ โควตาในการสอบเข้าโรงเรียนนายสิบทหารบก ร้อยละ 30 ในร้อยละ 80 ของทหารกองประจำการ, ได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษร้อยละ 4 ต่อการขอเลื่อนปลด 1 ครั้ง ในการสอบคัดเลือกเป็นนายทหารประทวนในสังกัดกองทัพบก
จากนั้นศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้รายงานผลการปฏิบัติด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาตินั้น ในเดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำผิด 170 คน ยึดของกลางได้ยาบ้า 69,729,105 เม็ด, ไอซ์ 1,534.515 กิโลกรัม, เฮโรอีน 3.425 กิโลกรัม และคีตามีน 445.08 กิโลกรัม ซึ่งส่วนมากยังคงพบการลักลอบลำเลียงในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และจากที่รัฐบาลได้มีนโยบายเพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบตลอดแนวชายแดน ในพื้นที่ 14 จังหวัด (51 อำเภอ) ตั้งแต่ ก.พ.68 เป็นต้นไปนั้น ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้ขออนุมัติไปยังกระทรวงกลาโหม ในการจัดกำลังป้องกันชายแดนเพิ่มเติมจำนวน 6 หมวด ประกอบด้วย กองกำลังสุรสีห์ 1 หมวด, กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี 2 หมวด, กองกำลังผาเมือง 2 หมวด และกองกำลังนเรศวร 1 หมวดเพื่อให้การสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบตลอดแนวชายแดนมีความครอบคลุมสอดรับตามนโยบายของรัฐบาล
สำหรับในส่วนของการบำบัดรักษาผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติด ที่กองทัพบกได้ให้การสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2546 ปัจจุบันหน่วยทหารของกองทัพบกรวม 33 แห่ง ได้จัดตั้งเป็นสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ซึ่งตั้งแต่เริ่มดำเนินการ ได้มีการบำบัดรักษาไปแล้วทั้งสิ้น 182,824 ราย โดยปัจจุบันมีผู้อยู่ระหว่างการเข้ารับการบำบัดรวม 990 ราย ซึ่งกองทัพบกพร้อมนำศักยภาพของทุกทรัพยากรที่มีอยู่ ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ในทุกมิติ
ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกส่วนที่ได้ปฏิบัติภารกิจในด้านต่างๆ ในห้วงที่ผ่านมาอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพบกประจำปี 2568, การจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ, การช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งการฝึกทหารกองประจำการผลัดที่ 2/67 ที่ทุกหน่วยฝึกได้ให้ความสำคัญ ในการกำกับดูแล จนผลการฝึกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการสูญเสียจากการฝึก ทหารใหม่สามารถปรับสภาพจากพลเรือนสู่ทหารอาชีพ พร้อมปฏิบัติภารกิจต่างๆ ของกองทัพบกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของการฝึก ผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยกำกับดูแลการฝึกต่างๆ ให้ได้ตามมาตรฐานที่กรมยุทธศึกษาทหารบกกำหนด ภายใต้มาตรการด้านความปลอดภัย เพราะทุกการฝึกถือเป็นการเตรียมกำลัง เพื่อนำไปสู่ความพร้อมต่อการใช้กำลังในอนาคต ให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง และสมุดปกขาวของกองทัพบก
