
“ภูมิธรรม” เปิดศาลาว่าการกลาโหม ต้อนรับ ออท.ปากีสถาน
ก่อนหารือความร่วมมือการฝึก ศึกษา การป้องกันประเทศระหว่างรัฐบาล และยินดีหากปากีสถานได้เข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.67 พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กห. กล่าวว่า วันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้การต้อนรับ นาง Rukhsana Afzaal (รุคซานา อัฟซอล) ออท.สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน/ไทย ณ ห้องสุรศักดิ์มนตรี ในศาลาว่าการกลาโหม โดย รมว.กลาโหม กล่าวแสดงความยินดีที่ได้พบปะหารือกันและชื่นชมทั้งสองประเทศที่ได้ดำเนินความสัมพันธ์ฉันมิตรมาอย่างยาวนาน โดยกองทัพไทยกับกองทัพปากีสถานมีประวัติศาสตร์ความร่วมมือที่ใกล้ชิด และเคยเป็นสมาชิกของภาคีองค์การสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Treaty Organization: SEATO)

รวมทั้ง มีความร่วมมือในหลายมิติ อาทิ การแลกเปลี่ยนการเยือน การฝึกศึกษา การประชุมในระดับต่าง ๆ ทั้ง อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และการลงนาม MOU ว่าด้วยความร่วมมือ ด้านการป้องกันประเทศระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ เมื่อ 5 มี.ค.64 ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการผลักดันความร่วมมือระหว่างกัน โดย ออท.สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน/ไทย ได้ขอบคุณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ที่ได้ให้การต้อนรับ รวมทั้งกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ รวมทั้งยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งสองประเทศจะได้พัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน และจะยินดีเป็นอย่างยิ่งหากปากีสถานได้เข้าร่วมการฝึก Cobra Gold

รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวว่า การที่จะเข้ามาขอร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าภาพร่วมคือไทยและสหรัฐฯ และเห็นชอบด้วยกับการที่จะเน้นการฝึกและสังเกตการณ์การฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และบรรเทาภัยพิบัติ (H A D R) การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่อการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ ยาเสพติด และปัญหาไซเบอร์ โดย กระทรวงกลาโหม ยินดีสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ ของ ออท.สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน/ไทย อย่างเต็มความสามารถ และเชื่อมั่นว่าจะสามารถสานต่อการดำเนินงาน ระหว่างกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
“ยินดีอย่างยิ่งที่ได้หารือกับ เอกอัครราชทูตในวันนี้ เกี่ยวกับความไม่สงบในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ไทยต้องการเห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่ในหลายพื้นที่มีความสงบสุขให้เกิดเสถียรภาพ ซึ่งจุดยืนของประเทศไทยคืออยากเห็นการเจรจาด้วยความอดทนอดกลั้นการหารือด้วยวิธีสันติและปรารถนาให้ทุกประเทศได้ส่งเสริมให้มีความสงบสุขพร้อมดูแลประชาชนของทุกฝ่ายให้เกิดความปลอดภัยทั้งในประเทศและภูมิภาค” รมว.กลาโหม กล่าว