
มทภ.2 โชว์ผลงาน ทพ.2101 “Seal Stop Safe” สกัดยาเสพติดชายแดน รวบ 3 ผู้ต้องหาขนยาไอซ์ 658 กิโลกรัมพร้อมยาบ้ากว่าแสนเม็ด ริมฝั่งน้ำโขง
ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 บ้านปากห้วยม่วง ตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 /ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง, พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 ( ร.3 ), พ.อ.อินทราวุธ ทองคำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21,นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 , นายอำเภอบ้านแพง พร้อมกับหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาชาว สปป.ลาว 3 ราย พร้อมตรวจยึดยาเสพติดประเภท 1 ยาไอซ์ จำนวน 16 กระสอบ 658 กิโลกรัม/ก้อน และยาบ้า 58 มัด จำนวน 116,000 เม็ด รถตู้ 1 คัน เรือกีบติดเครื่องยนต์ 2 ลำ ที่บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขงบ้านแพงใต้ ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม
โดย ร.ท.วันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 21 ได้นำกำลังพลหน่วยขึ้นตรงกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากฝั่ง สปป.ลาวเข้ามายังพื้นที่ฝั่งไทยเพื่อนำเข้าสู่พื้นที่ตอนใน บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขงบ้านแพงใต้ ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพงจึงได้ประสานกำลังกับหน่วยงานฝ่าวความมั่นคงที่เกี่ยวข้องซุ่มเฝ้าตรวจ พบเรือกลีบ จำนวน 2 ลำรถยนต์(รถตู้)จำนวน 1 คันพร้อมผู้ต้องหา จำนวน 3 คน เป็นชาวสปป.ลาว ประกอบด้วย ท้าวดำ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 16 ปี บ้านนาข่า เมืองคูนคำ แขวงคำม่วน สปป.ลาว-ท้าว ลี (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 17 ปี บ้านทางแยกหลักซาว เมืองปากกะดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว และท้าวพง อภัยโส อายุ 30 ปี อยู่บ้านดอน เมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป. ลาว พร้อมของกลาง 4 รายการ คือยาไอซ์ จำนวน 16 กระสอบ น้ำหนัก 658 กิโลกรัม/ก้อน,ยาบ้า 58 มัด 116,000 เม็ด,เรือกลีบเล็กพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 2 ลำ-รถยนต์ (รถตู้) จำนวน 1 คัน ทางหน่วยได้นำของกลางมาตรวจนับอีกครั้ง ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสามคนรับสารภาพว่าได้รับค่าจ้าจากนายทุนชาวลาวให้นำของกลางมาส่งที่ฝั่งไทยแลกค่าจ้างคนละ 20,000 บาทก่อนจะมาถูกจับกุมเสียก่อน