
“บิ๊กอ๊อบ” ร่วมเสวนา วปอ.67 แก้ปัญหา แก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ ตามนโยบายซีลชายแดน-3S ชำแหละเมืองบาป “ชเวโก๊กโก่-KK park-ไท้ชาง” ชม รัฐบาล-สมช. เด็ดขาด ตัดไฟ-ตัดเน็ต-ตัดน้ำมัน ก่อนมองบทบาทจีน นำไปสู่ความร่วมมือ 3 ชาติ
พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สวมบทนักวิชาการและอาจารย์พิเศษ พร้อม พล.อ.ชิดชนก นุชฉายา หัวหน้าคณะนายฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บัญชาการทหารสูงสุด และพล.อ.พงษ์เทพ แก้วไชโย ผบ.สปท. ร่วมคณะ วปอ.67 เดินทางไปยัง กองพลทหารราบที่ 7 จ.เชียงใหม่ ก่อนเข้าสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
จจากนั้น ร่วมการเสวนา ที่สโมสรยอดทัพ ในหัวข้อเรื่อง “การปราบปรามอาชญากรรมตามแนวชายแดน ตามนโยบาย 3 S (Seal-Stop-Safe) ของรัฐบาล : ผลลัพธ์/ผลกระทบ และข้อเสนอแนะการดำเนินการต่อไป”โดยมี พล.ต.สุจินต์ ทรัพย์สิน ผบ.พล.ร.7 ให้การต้อนรับ
โดยมี พล.ท.กิตติพงษ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อย3 /ผบ.หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบยส35) และ พ.อ.มีชัย นิลศาสตร์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 /รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางสาว เพ็ญโสม เลิศสิทธิชัย รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ (นศ.วปอ.67) และ ดร.ศิรดา เขมานิฏฐาไท อาจารย์ประจำสำนักวิชาการระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมเสวนา
นอกจากนี้ยังมี ผศ.ดร. วันวิชิต บุญโปร่ง และนางสาว วาสนา นาน่วม ในฐานะ ตัวแทนนักศึกษา วปอ.67 หลังจากลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในการแก้ปัญหา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รับฟังข้อมูลและความคิดเห็นจากฝ่ายความมั่นคง , กกล.นเรศวร , กกล.ผาเมือง , หอการค้าจังหวัด และผู้ประกอบการ ในพื้นที่ รับฟังความคิดเห็นรอบด้านและข้อมูลในเชิงลึก
เพื่อร่วมกันระดมสมองแก้ปัญหา แก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และนโยบาย ซีลชายแดน -3 S ของรัฐบาล พร้อมมองบทบาทของจีนในการร่วมแก้ปัญหานี้ว่าจะนำไปสู่ความร่วมมืออย่างยั่งยืนของ 3 ชาติไทย -จีน-เมียนมาในการแก้ปัญหาได้หรือไม่ หลังจากที่เคยมีกรณีที่เมืองเล้าก์ก่าย มาแล้วเมื่อพฤศจิกายน 2566 แต่ก็ยังมาเกิดกรณีเมืองบาป “ชเวโก๊กโก่-KK park-ไท้ชาง” ในฝั่ง เมียนมา ตรงข้ามอำเภอแม่ จ.ตาก
พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า รัฐบาลโดย นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด ในการดำเนินการมาตรการ ตัดไฟ-ตัดเน็ต-ตัดน้ำมัน โดย พิจารณากันอย่างรอบคอบผลกระทบในทุกด้านซึ่งมีตนเองในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ร่วมพิจารณาอยู่ด้วย และได้พูดคุยกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ในการเตรียมรับมือสถานการณ์ของคนที่ได้รับผลกระทบและจะต้องอพยพข้ามกลับมา ทั้งหมดนี้อยู่ในการพิจารณาและเตรียมการมาแล้ว ผไม่ใช่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง
ผบ.ทหารสูงสุด ยังกล่าวด้วยว่า หากพิจารณาพื้นที่ที่กองกำลังนเรศวรและกองกำลังผาเมือง รับผิดชอบประมาณ 1พันกิโลเมตร แต่กำลังพลมีอยู่ประมาณ 3 พันคน จาก ผบ.กกล. จนถึง พลทหาร คำนวณคร่าวๆตามพื้นที่แล้ว ทหารคนหนึ่งจะต้องรับพื้นที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ เท่าไหร่ มีกำลังเท่าไหร่ ก็ไม่เพียงพอ ราว 1 กม. ต้องใช้ทหาร 3 คนไปยืนเฝ้า ห้ามหลับห้ามนอนเลยถ้าเอาตัวเลขมาเทียบกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าหนักหนาสาหัสมาก การสกัดกั้นทำได้ยากมาก จึงอยากให้ฝ่ายการเมืองเข้าใจ
“ถามว่าสามารถเอาเทคโนโลยีมาช่วยได้ไหมก็ได้ แต่ชายแดนมันไม่มีกฎระเบียบ อะไรที่แน่นอน การใช้เทคโนโลยีไม่สามารถทดแทนคนได้ทั้งหมด พร้อมอยากเห็นกองทัพที่ไดนามิคมีการปรับเปลี่ยน ปรับกำลังพล ตามภัยคุกคาม มีการโยกกำลังมาช่วยในการ seal ชายแดนในพื้นที่ที่มีภัยคุกคามสูง”ผบ.ทหารสูงสุดกล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.ทรงวิทย์ ยังกล่าวชื่นชม พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทางบก ที่กล้าหาญการตัดสินใจ ท่านกล้าหาญมาก ในการแก้ปัญหาที่ต้นตอ ผมเชื่อว่าวันหนึ่งที่กองทัพจำเป็นต้องทำ มันก็ต้องทำ ไม่อย่างนั้น ประเทศชาติจะอยู่รอดเรากำลัง แลกด้วยอนาคตของลูกหลานเรา
ทั้งนี้มีรายงานว่า สิ่งที่ พล.อ.ทรงวิทย์ ระบุถึงน่าจะหมายถึงเหตุการณ์ทำลายโรงงานยาเสพติดของว้าแดง ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในปี 2543 ขณะที่ว่าบทบาทของกองทัพ จะเป็นผู้สนับสนุนกระทรวงการต่างประเทศในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับมิตรประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการใช้ความสัมพันธ์ทางการทหาร ในการช่วยเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ในการแก้ปัญหา เช่น กรณีของเมียนมา หรือแม้แต่กรณีของอิสราเอล และฮามาส ในการช่วยเหลือตัวประกันคนไทยได้กลับบ้าน
หลังจากนั้น พล.อ.ทรงวิทย์ ได้ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม ร่วมกับนักศึกษาวปอ.67 ในการมอบทุนการศึกษา ให้นักเรียนและร่วมปลูกต้นไม้