
ผบ.ทหารสูงสุด เรียกประชุมบอร์ด ปชด.นัดแรก ยัน 6- 9 มี.ค.นี้ ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 1.4 พันคนกลับประเทศ พร้อมสั่งตรึงกำลังเพื่อเร่งแก้ปัญหา ย้ำการตัดวงจนส่วย ขอให้ทุกกระทรวง กรม ตรวจสอบ จนท.ตัวเอง
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.68 หลังมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 83/2568 เมื่อวันที่ 28 ก.พ.68 แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือคณะกรรมการ ปชด. ในการสนับสนุนรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และภัยคุกคามอื่น ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงชายแดน
พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะ ประธานกรรมการ ปชด. จึงได้เรียกประชุมนัดแรก โดยมี พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดฯมหาดไทย พร้อมตัวแทนในคณะกรรมการ
พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าวว่า ภารกิจแรกศูนย์การสร้างองค์กรที่ทำงานร่วมกัน ผ่านการประสานสอดคล้องกัน ในวันที่ 6 -9 มีนาคมนี้ ทางการจีนจะมีการส่งเครื่องบินมารับเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ผ่านชายแดนไทยที่จังหวัดตาก ดังนั้นศูนย์นี้จะประสานงาน ตั้งแต่รับตัวจากฝั่งเมียนมา และเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้องตามกฏหมายไทย และส่งตัวขึ้นเครื่องบิน
ส่วนภารกิจที่สองคือการประเมินว่ามาตรการตัดไฟ ตัดน้ำมัน เมียนมาได้ผลมากน้อยเพียงใด ส่วนอินเตอร์เน็ตได้มอบให้กสทช. ดว่าหลังตัดสายแล้วสัญญาณที่ส่งข้ามมายังประเทศไทยสามารถวัดได้หรือไม่จะมีการปฏิบัติการหรือใช้อินเตอร์เน็ตจากฝั่งไทยอีกหรือไม่ และการช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม ซึ่งทางเมียนมาได้มีการขอผ่านทางที่ประชุมไตรภาคีกรณีโรงพยาบาล ซึ่งคณะกรรมการก็จะพิจารณาแล้วส่งข้อมูลทั้งหมดไปยังรัฐบาลว่าจะอนุมัติหรือไม่
ส่วนสถานการณ์ชายแดนล่าสุด มีการลักลอบข้ามแดนหลังเมียนมารับเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 7,000 คนไม่ไหว ผบ.ทสส. กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตรึงกำลังไว้อย่างดี แต่สิ่งที่เป็นห่วงหากเขาเดือดร้อนจากมาตรการฝั่งไทยจะแตกกระจายออกมา และการควบคุมก็จะยากขึ้น ดังนั้นจึงขอให้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. สั่งการให้กองกำลังป้องกันแนวชายแดน เจรจากองกำลังที่ควบคุมเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้อยู่ในพื้นที่ ส่วนไทยพยายามแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด แต่ขออย่าสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น
ขณะที่การสอบสวนมียนมา-จีน ได้ดำเนินไปแล้วกว่า 3,000 คน และพร้อมที่จะส่งออกในห้วงวันที่ 6- 9 มี.ค.นี้ ประมาณ 1,400 คน พร้อมกันนี้ตนก็ได้มีการขอให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) เป็นเสาหลักในการทำขบวนการเนรเทศ ไทยสามารถรับได้จำนวนกี่คนต่อวัน ซึ่งจะต้องเป็นข้อมูลจริงที่มีนำไปพูดคุยกับต่างชาติ ว่าจะไม่สามารถที่จะเร่งรัดขั้นตอนได้ เพราะต้องเป็นไปตามกฎหมายไทย หากเร่งรัดเจ้าหน้าที่ก็อาจจะเข้าข่ายมาตรา 157 ได้
“การตัดวงจรส่วยชายแดน ผบ.ตร. พูดชัดว่า ได้เข้าไปปรับกระบวนทัศน์ของตำรวจที่ทำงานในเรื่องนี้ทั้งหมด ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ สตช. จะไม่ยอมรับอีกต่อไป ประพฤติมิชอบและทำให้เกิดภัยคุกคามต่อประเทศ และได้มีการแสดงตัวอย่างของการลงโทษของเจ้าหน้าที่และมีอีกจำนวนมาก และขอให้แต่ละกระทรวง ทบวง กรม ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของตนเองด้วยว่าสิ่งไหนที่เคยกระทำผิด วันนี้ต้องหยุด มิเช่นนั้นปัญหาเหล่านี้ก็จะกลับมาอีกในระยะยาว และเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นแผนระยะยาว เพราะอยู่ในข้อของการตรวจสอบประสิทธิภาพขององค์กรที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะตามแนวชายแดนทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดตาก”พล.อ.ทรงวิทย์กล่าว