
ผบ.ทบ. ลงพื้นที่สะบ้าย้อย ให้กำลังใจ จนท. ชุดคุ้มครองตำบล “ทุ่งพอ” ขับเคลื่อนภารกิจแนวหน้าความมั่นคง เชื่อมรัฐ-ประชาชน หนุนศักยภาพป้องกันภัยในพื้นที่สีแดง ก่อนร่วมกับ ผบ.ทบ.มาเลเซีย เปิดจุดตรวจร่วม 36/100 ควบคุมดูแลความปลอดภัยชายแดนไทย-มาเลเซีย
เมื่อวันที่ 8 พ.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. /รอง ผอ.รมน. พร้อมด้วย พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ “ชุดคุ้มครองตำบลทุ่งพอ” (ชคต.) อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในภารกิจรักษาความปลอดภัยพื้นที่ชายแดนใต้
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ผบ.ทบ. ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของ ชคต. ในการเป็นกลไกแนวหน้า ที่ไม่เพียงป้องกันภัยคุกคาม แต่ยังมีบทบาทในการสร้างสะพานเชื่อมโยงความเข้าใจระหว่างภาครัฐกับชุมชนในพื้นที่ ที่ผ่านมา ชคต.ทุ่งพอ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านกำลังพล อุปกรณ์ และการฝึกอบรม จนสามารถรับมือสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผบ.ทบ. กล่าวชื่นชมความเสียสละและความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง พร้อมยืนยันว่า กองทัพบกจะเดินหน้าเสริมความเข้มแข็งในระดับตำบลต่อไป เพื่อร่วมสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
การเยือนครั้งนี้ไม่เพียงสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณชัดเจนถึงความเอาจริงเอาจังของกองทัพบกในการปกป้องความสงบสุขของประชาชนในทุกตารางนิ้วของประเทศ
จากนั้น ผบ.ทบ. เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดจุดตรวจร่วม 36/100 บริเวณหลักเขตแดนที่ 36/100 ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ร่วมกับ พลเอก ตัน สรี ดาโต๊ะ วิรา มูฮัมหมัด ฮาฟิสซูดีน บิน จันตัน ผบ.ทบ.มาเลเซีย ซึ่งถือเป็นจุดตรวจร่วมในพื้นที่รอยต่อชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ได้มีการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาและจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ
ผบ.ทบ. กล่าวในพิธีเปิด “รู้สึกภาคภูมิใจและซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เดินทางมาร่วมพิธีเปิดในวันนี้ โดยจุดตรวจร่วม 36/100 ถือเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือที่ใกล้ชิดและต่อเนื่องระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นหนึ่งเดียว ที่แสดงถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและเปี่ยมด้วยความไว้วางใจระหว่างกัน โดยขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งจากประเทศไทยและมาเลเซีย ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและจัดตั้งจุดตรวจร่วมแห่งนี้จนเกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งนับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่”