หลัง 1 ตุลาคม 68 กองทัพอากาศไทย จะได้ “บิ๊กคิม” ขึ้นนั่งเก้าอี้ ผบ.ทอ. คนใหม่ โปรไฟล์สุดเฉียบ อดีตนักบิน F-16 ฝีมือระดับแถวหน้า เติบโตครบทั้งสายปฏิบัติการและสายบริหาร พร้อมนำทัพฟ้าทะยานสู่มาตรฐานโลกใน 3 ปีข้างหน้า
ถูกวางตัวเป็น ผบ.ทอ. ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว “บิ๊กคิม” พลอากาศเอก เสกสรร คันธา หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ประจำปี 2568 อย่างเป็นทางการ ก็ได้รับการจับตามองอย่างมากในวงการทหาร เนื่องจากเป็นนายทหารที่มีทั้งฝีมือด้านยุทธวิธี และวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาองค์กรอย่างรอบด้าน
บิ๊กคิม เป็น นักบิน F-16 ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมือดีที่สุดของทัพฟ้าไทย ด้วยประสบการณ์การบิน และการรบทางอากาศอันโชกโชน อีกทั้งยังเคยเป็น ผู้บัญชาการโรงเรียนการบิน และ ผู้บังคับการกองบิน 4 ซึ่งเป็นหน่วยรบหลักของประเทศ รวมถึง เจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ
โดย พล.อ.อ.เสกสรร หลังจบมัธยมโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) แล้วเข้าเรียนต่อที่ โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 26 และ โรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่นที่ 33 ก่อนจะไปต่อระดับสูงที่ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึง วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร และ วิทยาลัยเสนาธิการร่วม สหราชอาณาจักร
การรับราชการทหาร บิ๊กคิม มีบทบาทสำคัญในทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ผู้บังคับการกองบิน4 , ผู้ช่วยทูตทหารอากาศ ณ กรุงลอนดอน , ผบ.โรงเรียนการบิน , เจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ , เสนาธิการทหารอากาศ , ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และล่าสุดได้รับการโปรดเกล้าฯเป็น ผบ.ทอ.
ด้วยประสบการณ์ครบเครื่อง ทั้งสาย “บู๊” และ “บุ๋น” บิ๊กคิม ถือเป็นความหวังใหม่ในการผลักดันกองทัพอากาศไทยให้ก้าวหน้าไปในเวทีโลก พร้อมเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาองค์กรตลอดวาระ 3 ปีข้างหน้า
