แม่ทัพภาคที่ 1 ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด หวั่นปะทะเชิงสัญลักษณ์ระหว่างสองชาติ ขณะที่ฝ่ายไทยระดมกำลังทหาร-ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมคุมเข้มพื้นที่ขัดแย้ง ขณะฝ่ายกัมพูชาเดินเกมกดดันให้ระงับปฏิบัติการ
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 รายงานสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 15.00 น. โดยระบุว่า ในหลายจุดเริ่มมีความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งมีทั้งมวลชน สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่รัฐจากทั้งสองประเทศเข้าพื้นที่พร้อมกันในจำนวนมาก

บริเวณ บ้านหนองจาน มีประชาชนชาวไทยกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าและผู้สื่อข่าว รวมตัวแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ขณะที่ฝั่งกัมพูชาก็มีการรวมตัวของมวลชนในพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้กองทัพไทยต้องจัดกำลังเข้าไประวังป้องกันพื้นที่อย่างเข้มงวด
ขณะที่บริเวณ บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนจากฝ่ายไทย แต่ฝั่งตรงข้าม กลับมีความเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชาประมาณ 100 คน กระจายตัวใกล้แนวรั้วลวดหนามและหมู่บ้านเปรยจัน ทำให้หน่วยงานฝ่ายไทยต้องนำกองร้อยควบคุมฝูงชนและชุดตรวจค้นวัตถุระเบิดจำนวน 4 ชุด พร้อมรถถากถางหุ้มเกราะ D5 เข้าปฏิบัติการในพื้นที่ คาดสามารถเคลียร์พื้นที่ปลอดภัยได้กว่า 38,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้ คณะผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้รับการชี้แจงจากกองทัพภาคที่ 1 เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของฝ่ายไทยที่ดำเนินการภายใต้กฎหมายของไทยและหลักสากล เพื่อจัดการกับการรุกล้ำของประชาชนจากกัมพูชาอย่างเหมาะสม
ประเด็นที่น่าสนใจคือ กองพลทหารราบที่ 51 ของกัมพูชา ได้มีหนังสือแจ้งขอให้ไทยระงับการเก็บกู้วัตถุระเบิดในพื้นที่ชายแดน โดยอ้างว่าขัดต่อข้อตกลง GBC (General Border Committee) ซึ่งทางฝ่ายไทยยืนยันว่าปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่อธิปไตยของไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้เดินทางลงพื้นที่ชายแดนด้วยตนเอง เพื่อกำกับและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยืนยันว่ากองทัพจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดในช่วงเวลาที่ได้เปรียบ เพื่อรักษาความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศอย่างสูงสุด